วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

“หวั่นไหว”




“หวั่นไหว”

เมื่อหัวใจหมายมั่นสัญญามอบ
เป็นคำตอบชอบซึ้งเป็นหนึ่งหมาย
สายใยทักสลักอยู่มิรู้คลาย
จวบสุดท้ายปลายฝันมิผันแปร

ตราบวันนั้นจนถึงซึ่งวันนี้
ผ่านเดือนปีนานเนิ่นเกินกระแส
จะจริงหรือคำว่าจะดูแล
เพราะสิ่งแท้คือความไม่แน่นอน

ฉันรู้สึกหวั่นไหวใจเริ่มล้า
เมื่อเวลาเลยล่วงห่วงสังหรณ์
รักของเรายังคงอยู่หรือแรมรอน
เธออาทรห่วงฉันนั้นเหมือนเดิม-

หรือวกเวียนเปลี่ยนผันคิดหันเห
กลายรวนเรเทถ่ายไร้หลักเสริม
ยืนยันหน่อยว่ารักช่วยฝากเติม
จะได้เพิ่มความมั่นใจให้อีกครา..

“สุนันท์ยา”



วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"ปลอบใจเธอ"


                                                             ยินเสียงใครร่ำร่ายระบายบอก

                                                              น้ำตาออกรินรื้นสะอื้นไหล
                                                            ว่าคิดถึงหนึ่งน้องเจ้าของใจ
ที่เคยได้เคียงชิดสนิทเนา

ยามลมไหวไผ่เบียด กอเสียดสี
ดั่งดนตรีแผ่วเพลินจากเนินเขา
เสียงแทรกโสตเลาะเรียงเพียงเบาเบา
เหมือนตอกย้ำความเหงาที่เข้าคลุม

พี่รู้ไหมมีคนเศร้าเฝ้าแอบจ้อง
เมียงเมียงมองร้อนใจดั่งไฟสุม
อยากช่วยคลายความเหงาที่เร้ารุม
ให้ชื่นชุ่มกลุ้มกลายสลายลง

แม้นพี่นี้มิหมายเคียงใกล้ชิด
ไม่สักนิดคิดครวญชวนลุ่มหลง
หวังเพียงพี่ปลดเปลื้องทุกเรื่องปลง
คือประสงค์ทรวงในจากใจนวล

"สุนันท์ยา"

"ทุกวันมีรัก"

.
ทุก ครั้งร้อยถ้อยรักที่ฝากมอบ
ทุก คำปลอบตอบไว้ได้สื่อสาร
ทุก ความหมายหยิบยื่นล้วนชื่นบาน
ทุก ห้วงกาลหวา่นวางทางสัมพันธ์

วัน นี้เราร่วมเรียงเคียงอักษร
วัน นี้คือรักกลอนอิงอ้อนฝัน
วัน นี้เราคือมิตรสนิทกัน
วัน นี้คือรักมั่นสำราญใจ

มี รักให้ในกานท์ขับขานกล่อม
มี รักพร้อมเชื่อมโยงจรรโลงไสว
มี รักงามเด่นสวยด้วยสายใย
มี รักร่วมสวมใส่ในกลอนกนาท์

รัก แบบนี้สุขไหมเมื่อได้รัก
รัก ในถ้อยร้อยถักฝากคำหวาน
รัก ด้วยรสพจน์ศิลป์จินตนาการ
รัก เนิ่นนานมีมอบไว้ตอบแทน

"สุนันท์ยา"

วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557

"ใครกำหนด"

“ใครกำหนด”

หลากหลายความนำกล่าวร้อยราวเรื่อง
คำขุ่นเคืองเปลืองจิตต่างคิดหา
เหตุผลอ้างวางกรอมอบศรัทธา
เพื่อได้มาซึ่งการวานวันคอย

โอ้..ใดหนอกำหนดรันทดจิต
ให้ชีวิตรับแต่แพ้เหงาหงอย
เส้นทางฝันฝันวางอย่างเลิศลอย
กลับต้องพลอยอ่อนล้าน้ำตาริน

กรรมเคยสร้างปางไหนให้ปวดปร่า
ชลนาหลั่งไหลดั่งใจสิ้น
ปานเลือดอาบฉาบในขาดใครยิน
สิ้นถวิลห่วงหาอ่อนล้าทรวง

ในความหวังหวังพ่ายกลายสลด
โศกรันทดกฎกรรมช้ำใหญ่หลวง
หรือต้องสิ้นวิญญาณ์ลับลารวง
การถามทวงทั้งหมดด้วยกฎใด

ดังชี้ช่องมองทางเพื่อขวางกั้น
สื่อสารอันรันทดไร้สดใส
หวังสิ่งมุ่งมุ่งหวังสว่างไกล
แต่..ดวงใจถูกปิด จากจิตมาร

โอ้.ชะตาฟ้าสร้างวางเป็นกฎ
ให้รันทดหมดแรงแกร่งห้าวหาญ
เหลือแต่ท้อก่อความตามรังควาน
รอยร้าวรานบั่นทอน...ให้นอนซม...

“สุนันท์ยา”


วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

****กระซิบบอกรัก****


อยากเปล่งเสียง เคียงเคล้าเมื่อคราวรัก
ให้ประจักษ์ รักนี้ ที่เสนอ
บอกกล่าวย้ำ อีกที ว่ามีเธอ
มั่นเสมอ จากจิต ที่ติดตรึง

กระซิบบอก ว่ารัก รักเสมอ
เฝ้าแต่เพ้อ ครวญคำ พร่ำคิดถึง
ร้อยลำนำ ย้ำถ้อย คอยคะนึง
ว่าสุดซึ้ง ยิ่งนัก สลักใจ

เธอ...รับรัก ฉันไหม ใจฝากถาม
ทุกถ้อยความลิขิต คิดหวั่นไหว
คราลมแผ่ว แว่วเสียง กระซิบใคร
เป็นสายใย เชื่อมโยง มั่นคงจริง

รักฉันหรือ ไม่รัก ใจอยากรู้
รอฟังอยู่ คำตอบ โปรดมอบหญิง
รัก-ไม่รัก บอกนะ อย่าประวิง
จะท้วงติง หรือรักมอบ...ควรตอบมา....

"สุนันยา"

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

“สัญญาหน้าฝน”


ส่งถ้อยรักฝากฝันวันฝนหลั่ง
เป็นความหวัง ตั้งไว้ ให้สมสอง
คือดวงใจ ใฝ่หา สัญญาครอง
เป็นค่าของ ความรัก ที่ปักตรึง

ฝัน เคยวางสร้างก่อ เพื่อรอผล
แม้นทุกข์ทน อย่างไร ยังใฝ่ถึง
โอ้ทรวงใน ใจนุช สุดคำนึง
คนเคยซึ้ง พึงตระหนัก ด้วยภักดี

ฝากฝนโปรยโรยทางดังถวิล 
จากดวงจินต์ มิหายเคลื่อนย้ายหนี
รอยน้ำตา อาบแต้ม สองแก้มมี
แต่..ฤดีจำไว้ ไม่ลืมเลือน

เมื่อวสันต์ ผ่านผันเหมันต์เข้า
สายลมเย้าเคล้ารื่น ชื่นใดเหมือน
หวั่นรักเลยร่วงลายามพล่าเลือน
อย่าแชเชือนให้ช้ำระกำคอย 

อยากฝากรัก พักลง ตรงทรวงพี่
หากมิมีใดโศกวิโยคถอย
หวังพี่ไม่ เหหัก เป็นหลักลอย
ให้เนื้อกลอย พลอยเศร้าเฝ้ากล้ำกลืน

โปรดยึดมั่น “สัญญาเมื่อหน้าฝน”
อย่าให้หม่น ทนช้ำระกำฝืน
วันหนาวเนื้อ เหลือเคียง เพียงขวัญยืน
ทุกวันคืน ชื่นฝัน..สัมพันธ์ครอง

“สุนันยา”

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

***หากฟ้าสิ้นสีทองพราวผ่องใส***



สิ้นแสงทองส่องฉายปลายฟากฟ้า
มืดหม่นมาทาทาบขึ้นฉาบแสง
สลัวเงาเศร้าสลดหมดเรี่ยวแรง
สุดเสแสร้งแข็งขืนให้ฝืนทน

จะเหลียวซ้ายแลขวาหาใดนั่น
ความหวาดหวั่นปานแฝงทุกแห่งหน
สิ้นแสงสีสดใสในกมล
เหงาปะปนดลสำแดงดุจแกล้งกัน

สิ้นแสงทองผ่องประกายฉายปรากฏ
น้ำตาหลั่งรดใจใครเปลี่ยนผัน
มีแต่เจ็บเก็บย้อนซ่อนจาบัลย์
จะหาฝันที่ไหนไว้เคียงคืน

หากฟ้าสิ้นสีทองพราวผ่องใส 
คงต้องเศร้าอาลัยร่ำไห้ฝืน
เพราะสุดทนระกำแสนกล้ำกลืน
นอนสะอื้นขื่นขมระทมทรวง.....

“สุนันยา”